ข้อมูลส่วนตัวชื่อเต็ม : ซามูแอล เอโ

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : ซามูแอล เอโต้ ฟิลส์
วันเกิด : 10 มีนาคม 1981
เกิดที่ : เอ็นคอน, แคเมอรูน
ตำแหน่ง : กองหน้า
ส่วนสูง : 180 ซม.
สโมสรปัจจุบัน : บาร์เซโลน่า
หมายเลขเสื้อ : 9
สโมสรปัจจุบัน : บาร์เซโลน่า 
ทีมชาติ : แคเมอรูน (1966-ปัจจุบัน)

ประวัติความเป็นมา

หนึ่งในศูนย์หน้าที่ครบเครื่องที่สุดในยุโรปก็คงจะมีชื่อของ ซามูแอล เอโต้ ของบาร์เซโลน่า รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งสร้างชื่อด้วยการเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ หลังกดไป 16 ประตูให้กับทีมชาติแคเมอรูน

เอโต้ เริ่มฉายแววความโดดเด่นในวงการฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น เพราะนอกจากสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งตามแบบฉบับนักเตะจากวีปแอฟริกาแล้ว เขายังมีทักษะและสัญชาตญาณการทำประตูที่ยอดเยี่ยมด้วย และนั่นทำให้เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของสเปน เซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีมตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี

เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง

1997-2000 : เก็บเกี่ยวประสบการณ์

ในปี 1997 เอโต้ เข้าร่วมเป็นสมาชิกในทีม เรอัล มาดริด ในฐานะนักฟุตบอลฝึกหัดในทีมชุด บี ซึ่งเล่นอยู่ในระดับเซกุนด้า บี ซึ่งไม่อนุญาตให้นักเตะนอกอียูลงทำการแข่งขัน บวกกับด้วยความที่อายุของเอโต้ยังน้อยมากได้ ส่งผลให้ เรอัล มาดริด จึงปล่อยตัวเขาให้ เลกาเนส ยืมตัวไปใช้งานในช่วงฤดูกาล 1997-1998

หลังหมดสัญญายืมตัวกับ เลกาเนส เอโต้ ก็ถูกเรอัล มาดริด ส่งให้ไปหาประสบการณ์กับ เอสปันญ่อล แต่ได้ลงสนามเพียงน้อยนิด ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมเรอัล มายอร์ก้า แบบยืมตัวเช่นเคย ซึ่งหลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างประทับใจให้กับ "ทีมชาวเกาะ" มายอร์ก้า ก็ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้าตัว หัวหอกชาวแคเมอรูน มาร่วมทีม โดยมีสถานะเป็นเจ้าของร่วมกับเรอัล มาดริด

2000-2004 : แจ้งเกิดกับ เรอัล มายอร์ก้า

ระหว่างที่อยู่กับ มายอร์ก้า เขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังกดไปทั้งสิ้น 54 ประตู จากนั้น ก็ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2004 ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร (ราว 1,152 ล้านบาท) หลังจากการเจรจาที่ยาวนาน 3 ฝ่าย ร่วมกับมารยอร์ก้า และ เรอัล มาดริด ซึ่งนั่นทำให้ เอโต้ กลายเป็นคเมอรูนคนแรก ที่ได้เล่นให้ทีมยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลัน
2004 : ซูเปอร์สตาร์ในถิ่นคัมป์นู

เอโต้ ประเดิมสนามนัดแรกให้กับ บาร์ซ่า ในเกมลีกที่พบกับ ราซิ่ง ซานตานเดร์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2004 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นเครื่องจักรถล่มประตูให้กับทีม "เจ้าบุญทุ่ม" มาตลอด โดยฤดูกาลแรกทำไป 25 ประตู และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกมาครอง เนื่องจากประตูที่ทำได้ในเกมกับ เลบานเต้ กลายเป็นประตูตัดสินแชมป์ โดยเขาใช้เวลาเพียง 67 นัด ก็สามารถทำสถิติยิงครบ 50 ประตูให้กับ บาร์ซ่า ได้อย่างรวดเร็ว

ฤดูกาล 2005-06 เอโต้ ก็จบด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลา ลีก้า หลังทำไป 26 ประตู และในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2007 เขาก็เป็นคนทำประตูตีเสมอให้กับ บาร์ซ่า ก่อนที่จะแซงชนะ อาร์เซน่อล และคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่ของยุโรปไปครองในที่สุด

นับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ในถิ่นคัมป์ นู เขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด จนทำให้ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา 3 ปีซ้อน (2004-06) โดย เอโต้ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทุ่มเทให้กับทั้งทีมชาติอย่างเต็มที่ และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของคนทั้งชาติ

ช่วงจบฤดูกาล 2009/10 เอโต้ ซึ่งมีปัญหาอยู่ลับๆ กับโจน ลาปอร์ต้า จนทำให้ทางทีมหาทางเอาเขาออกจากทีม ซึ่งก็ได้ทำการแลกตัว เอโต้ กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ของทีมอินเตอร์ มิลาน ของลีกอิตาลี เป็นที่เรียบร้อย
ทีมชาติแคมารูน

ในส่วนของทีมชาติ เอโต้ ก็ประสบความสำเร็จมามากมายเช่นกัน โดยขณะที่เขา อายุได้ 17 ปี 3 เดือน เขาก็กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส และเป็นผู้เล่นที่คนเดียวที่เกิดในทศวรรษ 80 ด้วย

นอกากนี้ เขายังสามารถพาทีมชาติแคเมอรูน ก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกส์ ปี 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้สำเร็จ ก่อนที่ในปีเดียวกันนี้ เขาก็ก็คว้าแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ มาครองได้ด้วย โดยทีม "หมอผี" ได้เป็นเจ้าแห่งกาฬทวีปอีกครั้งในปี 2002

อย่างไรก็ตาม เอโต้ และทีมชาติแคเมอรูน ก็ต้องอกหักพ่าย อียิปต์ ในรอบชิงชนะเลิศในปี 2008 ซึ่งเขาจบด้วยการเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์หลังทำไป 5 ประตู และกลายเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลในศึกแอฟรืกัน เนชั่นส์ คัพ ด้วยจำนวน 16 ประตู

เกียรติประวัติที่เคยได้รับ

ระดับสโมสร

บาร์เซโลน่า

2008-09 แชมป์ลาลีก้า
2008-09 ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก
2008-09 โคปปา เดล เรย์
2006-07 แชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพ
2005-06 แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
2005-06 แชมป์ลา ลีก้า
2005-06 แชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพ
2004-05 แชมป์ลา ลีก้า

ทีมชาติแคเมอรูน
2008 รองแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
2003 รองแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ
2002 แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
2000 แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
2000 เหรียญทองโอลิมปิก ที่ซิดนีย์

ระดับส่วนตัว
2005-06 ดาวซัลโว ลา ลีก้า
2004-05 อันดับ 3 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า
2004-05 นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา
2003-04 นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา
2002-03 นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลส่วนตัวชื่อเต็ม: ซามูแอลเอโต้ฟิลส์วันเกิด: 10 มีนาคม 1981เกิดที่: เอ็นคอน แคเมอรูนตำแหน่ง: กองหน้าส่วนสูง: 180 ซมสโมสรปัจจุบัน: บาร์เซโลน่าหมายเลขเสื้อ: 9สโมสรปัจจุบัน: บาร์เซโลน่า ทีมชาติ: แคเมอรูน (1966-ปัจจุบัน)ประวัติความเป็นมาหนึ่งในศูนย์หน้าที่ครบเครื่องที่สุดในยุโรปก็คงจะมีชื่อของซามูแอลเอโต้ของบาร์เซโลน่ารวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งสร้างชื่อด้วยการเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในศึกแอฟริกันเนชั่นส์คัพหลังกดไป 16 ประตูให้กับทีมชาติแคเมอรูนเอโต้เริ่มฉายแววความโดดเด่นในวงการฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นเพราะนอกจากสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งตามแบบฉบับนักเตะจากวีปแอฟริกาแล้วเขายังมีทักษะและสัญชาตญาณการทำประตูที่ยอดเยี่ยมด้วยและนั่นทำให้เรอัลมาดริดยักษ์ใหญ่ของสเปนเซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีมตั้งแต่อายุเพียงปี 16เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งปี 1997-2000: เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในปี 1997 เอโต้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในทีมเรอัลมาดริดในฐานะนักฟุตบอลฝึกหัดในทีมชุดบีซึ่งเล่นอยู่ในระดับเซกุนด้าบีซึ่งไม่อนุญาตให้นักเตะนอกอียูลงทำการแข่งขันบวกกับด้วยความที่อายุของเอโต้ยังน้อยมากได้ส่งผลให้เรอัลมาดริดจึงปล่อยตัวเขาให้เลกาเนสยืมตัวไปใช้งานในช่วงฤดูกาล 1997-1998หลังหมดสัญญายืมตัวกับเลกาเนสเอโต้ก็ถูกเรอัลมาดริดส่งให้ไปหาประสบการณ์กับเอสปันญ่อลแต่ได้ลงสนามเพียงน้อยนิดก่อนจะย้ายไปร่วมทีมเรอัลมายอร์ก้าแบบยืมตัวเช่นเคยซึ่งหลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างประทับใจให้กับ "ทีมชาวเกาะ" มายอร์ก้าก็ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้าตัวหัวหอกชาวแคเมอรูนมาร่วมทีมโดยมีสถานะเป็นเจ้าของร่วมกับเรอัลมาดริด2000-2004: แจ้งเกิดกับเรอัลมายอร์ก้าระหว่างที่อยู่กับมายอร์ก้าเขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของสโมสรหลังกดไปทั้งสิ้น 54 ประตูจากนั้นก็ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่าในช่วงซัมเมอร์ปี 2004 ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร (ราว 1,152 ล้านบาท) 3 ฝ่ายร่วมกับมารยอร์ก้าเรอัลมาดริดซึ่งนั่นทำให้เอโต้กลายเป็นคเมอรูนคนแรกที่ได้เล่นให้ทีมยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลันและหลังจากการเจรจาที่ยาวนาน2004: ซูเปอร์สตาร์ในถิ่นคัมป์นูเอโต้ประเดิมสนามนัดแรกให้กับบาร์ซ่าในเกมลีกที่พบกับราซิ่งซานตานเดร์และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2004 เขาก็กลายเป็นเครื่องจักรถล่มประตูให้กับทีม "เจ้าบุญทุ่ม" มาตลอดโดยฤดูกาลแรกทำไป 25 ประตูและมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกมาครองเนื่องจากประตูที่ทำได้ในเกมกับเลบานเต้กลายเป็นประตูตัดสินแชมป์โดยเขาใช้เวลาเพียง 67 นัดก็สามารถทำสถิติยิงครบ 50 ประตูให้กับบาร์ซ่าได้อย่างรวดเร็ว2005-06 ฤดูกาลเอโต้ก็จบด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลาลีก้าหลังทำไป 26 ประตูและในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2007 เขาก็เป็นคนทำประตูตีเสมอให้กับบาร์ซ่าก่อนที่จะแซงชนะอาร์เซน่อลและคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่ของยุโรปไปครองในที่สุดนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ในถิ่นคัมป์นูเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอดจนทำให้ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา 3 ปีซ้อนเอโต้ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทุ่มเทให้กับทั้งทีมชาติอย่างเต็มที่และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของคนทั้งชาติโดย (2004-06)2009/10 ช่วงจบฤดูกาลเอโต้ซึ่งมีปัญหาอยู่ลับ ๆ กับโจนลาปอร์ต้าจนทำให้ทางทีมหาทางเอาเขาออกจากทีมซึ่งก็ได้ทำการแลกตัวเอโต้ซลาตันอิบราฮิโมวิชของทีมอินเตอร์มิลานของลีกอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยดื่มด่ำทีมชาติแคมารูนในส่วนของทีมชาติเอโต้ก็ประสบความสำเร็จมามากมายเช่นกันโดยขณะที่เขาอายุได้ปี 17 3 เดือนเขาก็กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศสและเป็นผู้เล่นที่คนเดียวที่เกิดในทศวรรษ 80 ด้วยนอกากนี้เขายังสามารถพาทีมชาติแคเมอรูนก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกส์ปี 2000 ที่นครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียได้สำเร็จก่อนที่ในปีเดียวกันนี้เขาก็ก็คว้าแชมป์แอฟริกันเนชั่นส์คัพมาครองได้ด้วยโดยทีม "หมอผี" ได้เป็นเจ้าแห่งกาฬทวีปอีกครั้งในปี 2002อย่างไรก็ตามเอโต้และทีมชาติแคเมอรูนก็ต้องอกหักพ่ายอียิปต์ในรอบชิงชนะเลิศในปี 2008 ซึ่งเขาจบด้วยการเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์หลังทำไป 5 ประตูและกลายเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลในศึกแอฟรืกันเนชั่นส์คัพด้วยจำนวน 16 ประตูเกียรติประวัติที่เคยได้รับระดับสโมสรบาร์เซโลน่าแชมป์ลาลีก้า 2008-09ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 2008-092008-09 โคปปาเดลเรย์ซูเปอร์คัพแชมป์สแปนิช 2006-072005-06 แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกลีก้าแชมป์ลา 2005-06ซูเปอร์คัพแชมป์สแปนิช 2005-06ลีก้าแชมป์ลา 2004-05ทีมชาติแคเมอรูน2008 รองแชมป์แอฟริกันเนชั่นส์คัพ2003 รองแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ2002 แชมป์แอฟริกันเนชั่นส์คัพ2000 แชมป์แอฟริกันเนชั่นส์คัพ2000 เหรียญทองโอลิมปิกที่ซิดนีย์ระดับส่วนตัว2005-06 ดาวซัลโวลาลีก้า2004-05 อันดับ 3 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่านักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกาปี 2004-05นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา 2003-04นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา 2002 03

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนตัว Thailand ข้อมูลเต็มชื่อ: ซาลแอมูโต้ฟิลส์เอการธนาคารวันเกิด 10 มีนาคม 1981 เกิดที่: เอ็นคอน, แคเมอรูนตำแหน่งสมัคร: หน้ากองส่วนสูง: 180 ซม. สโมสรปัจจุบัน: เซโลบาร์น่าหมายเลขเสื้อ: 9 สโมสรปัจจุบัน : เซโลบาร์น่าทีมชาติ: แคเมอรูน ซามูแอลเอโต้ของบาร์เซโลน่ารวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เนชั่นส์คัพหลังกดไป 16 กับทีมให้ชาติแคเมอรูนประตูเอโต้ และนั่นทำให้เรอัลมาดริดยักษ์ใหญ่ของสเปน 16 ปีเริ่มคุณต้นอาชีพค้าแข้ง1997-2000: ประสบการณ์เก็บเกี่ยวในปี1997 เอโต้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในทีมเรอัลมาดริดในฐานะนักฟุตบอลฝึกหัดในทีมชุดบีซึ่งเล่นอยู่ในระดับเซกุนด้าบี ส่งผลให้เรอัลมาดริดจึงปล่อยตัวเขาให้เลกาเนสยืมตัวไปใช้งานในช่วงฤดูกาล 1997-1998 หลังหมดสัญญายืมตัวกับเลกาเนสเอโต้ก็ถูกเรอัลมาดริดส่งให้ไปหาประสบการณ์กับ เอสปันญ่อล แต่ได้ลงสนามเพียงน้อยนิดก่อนจะย้ายไปร่วมทีมเรอัลมายอร์ก้าแบบยืมตัวเช่นเคย "ทีมชาวเกาะ" มายอร์ก้าก็ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้าตัวหัวหอกชาวแคเมอรูนมาร่วมทีมโดยมีสถานะเป็นเจ้าของร่วมกับเรอัลมาดริด2000-2004: เกิดอัครูเรลกับมายอร์ก้าที่ขณะนี้กับระหว่างมายอร์ก้า หลังกดไปทั้งสิ้น 54 ประตูจากนั้นก็ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่าในช่วงซัมเมอร์ปีด้วยค่าตัว 2,004 24 ล้านยูโร (ราวล้านบาท 1152) หลังจากการเจรจาที่ยาวนาน 3 ฝ่ายร่วมกับมารยอร์ก้าและเร อัลมาดริดซึ่งนั่นทำให้เอโต้กลายเป็นคเมอรูนคนแรก : ตาร์ซูสเปอร์ในถิ่นคัทป์นูมเอโต้ประเดิมสนามให้กับบาร์ซ่านัดแรกในเกมที่พบกับลีกซิ่งซานตาราร์นเดเมื่อการธนาคารวันที่29 สิงหาคม 2004 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา "เจ้าบุญทุ่ม" มาตลอดโดยฤดูกาลแรกทำไป 25 ประตู เนื่องจากประตูที่ทำได้ในเกมกับเลบานเต้กลายเป็นประตูตัดสินแชมป์โดยเขาใช้เวลาเพียง 67 นัดก็สามารถทำสถิติยิงครบ 50 บาร์ซ่าประตูให้ได้อย่างรวดเร็วกับฤดูกาล2005-06 เอโต้ ลีก้าหลังทำไป 26 ประตูและในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2007 เขาก็เป็นคนทำประตูตีเสมอให้กับบาร์ซ่าก่อนที่จะแซงชนะอาร์เซน่อล นู 3 ปีซ้อน (2004-06) โดยเอโต้ 2009/10 เอโต้ซึ่งมีปัญหาอยู่ลับๆกับโจนลาปอร์ต้าจนทำให้ทางทีมหาทางเอาเขาออกจากทีมซึ่งก็ได้ทำการแลกตัวเอโต้กับซลาตันอิบราฮิโมวิชของทีมอินเตอร์มิลานของ ลีกอิตาลี เอโต้ก็ประสบความสำเร็จมามากมายเช่นกันโดยขณะที่เขาอายุได้ 17 ปี 3 เดือน 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส 80 ด้วยกากอนยังนี้เขาสามารถพาทีมชาติแคเมอรูนก้าวขึ้นมาทองคว้าเหรียญโอลิมปิกส์ปี2000 ที่นครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียได้สำเร็จก่อนที่ในปีเดียวกันนี้เขาก็ก็คว้าแชมป์แอฟริกันเนชั่นส์คั พมาครองได้ด้วยโดยทีม "หมอผี" 2002 อย่างไรก็ตามเอโต้และทีมชาติแคเมอรูนก็ต้องอกหักพ่ายอียิปต์ในรอบชิงชนะเลิศในปี 2008 5 ประตู เนชั่นส์คัพด้วยจำนวน 16 แชมป์ลาลีก้ายูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 2008-09 2008-09 โคปปาเดลเรย์2006-07 แชมป์สแปนิชซูเปอร์คัพ2005-06 แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก2005-06 แชมป์ลาลีก้า2005 -06 สแปแชมป์นิชซูเปอร์คัทพลาลีก้า2004-05 แชมป์ทีมชาติแคเมอรูนปี2008 รองแชมป์แอฟริกันเนชั่นส์คัพ2003 รองแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ2002 แชมป์แอฟ ริกันเนชั่นส์คัพ2000 แอฟแชมป์ริกันเนชั่นส์คัพทองโอลิมปิก2000 ซิดนีย์เหรียญที่ระดับส่วนตัว2005-06 ดาวซัลโวลาลีก้า2004-05 อันดับ 3 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า2004 -05 นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา2003-04 นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา2002-03 นักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อเต็ม  :  ซามูแอลเอโต้ฟิลส์วันเกิด  : 1981 :  เอ็นคอนเกิดที่   10 มีนาคม


, แคเมอรูนตำแหน่ง  :  กองหน้าส่วนสูง  : 180 ซมรึเปล่า

สโมสรปัจจุบัน  :  บาร์เซโลน่าหมายเลขเสื้อ  : ไหม 9 สโมสรปัจจุบัน :  บาร์เซโลน่า 

ทีมชาติ :แคเมอรูน ( 1966 - ปัจจุบันประวัติความเป็นมา



)หนึ่งในศูนย์หน้าที่ครบเครื่องที่สุดในยุโรปก็คงจะมีชื่อของซามูแอลเอโต้ของบาร์เซโลน่ารวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งสร้างชื่อด้วยการเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในศึกแอฟริกันเนชั่นส์คัพ16 ประตูให้กับทีมชาติแคเมอรูน

เอโต้เริ่มฉายแววความโดดเด่นในวงการฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นเพราะนอกจากสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งตามแบบฉบับนักเตะจากวีปแอฟริกาแล้วเขายังมีทักษะและสัญชาตญาณการทำประตูที่ยอดเยี่ยมด้วย