Creation of emergency committee[edi

Creation of emergency committee[edit]

After the 1960 Valdivia earthquake, a committee was formed to solve problems caused by the earthquake. It continued to operate, to develop approaches for national emergencies. In 1974 it was named ONEMI (Spanish acronym for National Emergency and Information Office) when it was authorized by law as an independent governmental office.

As a result of the earthquake, an international technological cooperation programme was established in the dairy sector. More specifically, the German and Danish governments helped to create the Centro Tecnológico de la Leche (the Milk Technological Centre) in the Southern University of Chile.[30] The scholar Erik Dahmén believes that the earthquake resulted in a "creative destruction" for farmers of Southern Chile.[29]

The economy of the coastal town of Queule had during the 1950s developed significantly. Its economy based on fishing, agriculture and industry had grown. Queule was connected by road in 1957 to the rest of the country and the town had developed into a balneario. This era of prosperity ended with the 1960 earthquake.[31]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สร้างคณะกรรมการฉุกเฉิน [แก้ไข]หลังจากแผ่นดินไหวทางไปยัง 1960 คณะกรรมการถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากแผ่นดินไหว มันยังคงดำเนินการ เพื่อพัฒนาแนวทางสำหรับกรณีฉุกเฉินแห่งชาติ ใน 1974 มันชื่อว่า ONEMI (ชื่อย่อภาษาสเปนสำหรับฉุกเฉินแห่งชาติและสำนักงานข้อมูล) เมื่อถูกผู้มีอำนาจตามกฎหมายเป็นสำนักงานรัฐอิสระจากแผ่นดินไหว เป็นโครงการความร่วมมือทางเทคโนโลยีระหว่างประเทศถูกก่อตั้งขึ้นในภาคนมการ อื่น ๆ โดยเฉพาะ เยอรมัน และเดนมาร์กรัฐบาลช่วยสร้างศูนย์เทคโนโลยีของนม (นมเทคโนโลยีศูนย์กลาง) ในมหาวิทยาลัยทางภาคใต้ของประเทศชิลี [30] นักวิชาการ Erik Dahmén เชื่อว่า แผ่นดินไหวส่งผลให้ "ทำลายความคิดสร้างสรรค์" สำหรับเกษตรกรทางภาคใต้ของชิลี [29]เศรษฐกิจของเมืองชายฝั่ง Queule ได้ในระหว่างช่วงทศวรรษ 1950 พัฒนาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในการตกปลา เกษตร และอุตสาหกรรม Queule ถูกเชื่อมต่อ ด้วยถนนทั้งของประเทศ และมีพัฒนาเมืองเป็นสปา นี้มีความเจริญที่จบลง ด้วยการเกิดแผ่นดินไหว 1960 [31]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสร้างของคณะกรรมการฉุกเฉิน [แก้ไข] หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว Valdivia 1960 คณะกรรมการคือการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการเกิดแผ่นดินไหว มันยังคงดำเนินการเพื่อพัฒนาแนวทางสำหรับกรณีฉุกเฉินแห่งชาติ ในปี 1974 มันเป็นชื่อ ONEMI (ตัวย่อภาษาสเปนฉุกเฉินแห่งชาติและสำนักงานข้อมูล) เมื่อมันได้รับอนุญาตตามกฎหมายเป็นสำนักงานของรัฐที่เป็นอิสระ. อันเป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวที่มีโครงการความร่วมมือทางเทคโนโลยีระหว่างประเทศก่อตั้งขึ้นในภาคนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลเยอรมันและเดนมาร์กช่วยในการสร้างศูนย์เทคโนโลยีของนม (นมเทคโนโลยี Centre) ในมหาวิทยาลัยภาคใต้ของประเทศชิลี. [30] นักวิชาการเอริค DAHMEN เชื่อว่าแผ่นดินไหวส่งผลให้ใน "ทำลายความคิดสร้างสรรค์" สำหรับเกษตรกร ทางภาคใต้ของประเทศชิลี. [29] เศรษฐกิจของเมืองชายฝั่งทะเลของซีคอน Queule พัฒนาอย่างมีนัยสำคัญปี 1950 เศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการประมงการเกษตรและอุตสาหกรรมมีการเติบโต Queule เป็นในปี 1957 เชื่อมต่อกับถนนส่วนที่เหลือของประเทศและเมืองที่มีการพัฒนาเข้ามาในรีสอร์ท ยุคนี้ของความเจริญรุ่งเรืองสิ้นสุดด้วยแผ่นดินไหว 1960. [31]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสร้างการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉิน [ แก้ไข ]
2
4 หลังจากที่ในปีค . ศ .1960 วาลดีเวียแผ่นดินไหวคณะกรรมการได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการเกิดแผ่นดินไหว มันมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาแนวทางสำหรับประเทศที่มีการใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในปีพ . ศ . 2517 มันมีชื่อว่า ONEMI ( สเปนคำย่อสำหรับภาวะฉุกเฉินแห่งชาติและข้อมูล Office ) เมื่อได้รับอนุญาตตามกฎหมายนั้นเป็นของรัฐที่เป็นอิสระ Office ได้

เป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหว , ความร่วมมือทางเทคโนโลยีระดับนานาชาติเป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นในภาคผลิตภัณฑ์นม ยิ่งไปกว่านั้นภาษาเยอรมันและภาษาเดนมาร์กรัฐบาลได้มีส่วนช่วยในการสร้างศูนย์กลางเทคโนโลยีของนม ( ศูนย์กลางเทคโนโลยีการอุ่นนม ) ในส่วนพื้นที่ทางตอนใต้ของมหาวิทยาลัยของประเทศชิลี[ 30 ] นักวิชาการ Erik Dahmen แผ่นดินไหวที่เชื่อว่าการส่งผลในการทำลายความคิดสร้างสรรค์ " " สำหรับเกษตรกรทางตอนใต้ของประเทศชิลี [ 29 ]
2
4 ภาวะเศรษฐกิจของเมืองริมชายฝั่งของ Queule adh ในช่วงปี 1950 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริษัทในทางเศรษฐกิจซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนการตกปลาการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมได้งอกขึ้นมาได้ มีการเชื่อมต่อทางถนนโดย Queule ในปี 2500 เพื่อไปยังส่วนพื้นที่ที่เหลือของประเทศและเมืองได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นสปาได้ความรุ่งเรืองของยุคนี้สิ้นสุดลงด้วยแผ่นดินไหวปี 2503 [ 31 ]